เครื่องยนต์ยุคใหม่มีขนาดเล็กลง (Engine Downsizing) แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น ควรดูแลอย่างไร?

ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนา และก้าวข้ามข้อจำกัด โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านยานยนต์ ซึ่งเครื่องยนต์ในยุคปัจจุบันนั้น ต่างก็ได้รับการพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้น ในขณะที่ขนาดเครื่องยนต์มีความจุที่น้อยลง หรือที่เรียกกันว่า Engine Downsizing ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปช่วยในเรื่องของการจุดระเบิด และการเผาไหม้ ส่งผลให้มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่น้อยลง และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่กลับได้ประสิทธิภาพในการเผาไหม้ดีขึ้น ส่งผลให้มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น
แต่ทว่าเครื่องยนต์ที่ถูกลดขนาดความจุนั้น ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ก็จะต้องแบกรับภาระ และทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกสูบ หรือผนังกระบอกสูบ ที่มีการจุดระเบิดที่เร็วขึ้น ทำให้เกิดการเสียดสีสูงขึ้น รวมไปถึงการนำเทอร์โบเข้ามาช่วยอัดอากาศ เพื่อให้มีการจุดระเบิดที่แรงขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ยุคใหม่นั้น มีความร้อนสะสมที่สูงกว่า น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง จึงเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะช่วยปกป้องดูแลให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
คุณสมบัติของน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ยุคใหม่
- ให้ประสิทธิภาพในการหล่อลื่น ช่วยลดแรงเสียดทาน หรือลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้
- ทนต่อความร้อนได้สูง รักษาความหนืดของตัวน้ำมันได้ดี
- ให้การปกป้องชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์
- สามารถลดคราบเขม่า และช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์
- มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ซึ่งคุณสมบัติทั้ง 5 ประการนั้น ถือเป็นปัจจัยหลักในการเลือกน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ยุคใหม่ โดยคุณสมบัติทั้งหมดนั้น มีอยู่ในน้ำมันเครื่อง วาโวลีน ซินพาวเวอร์ เอ็มเอสที น้ำมันเครื่อง อัลตร้าฟูลลี่ซินเธติค สังเคราะห์แท้ 100% เกรดสูง ผลิตจากน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์คุณภาพสูงสุด ผสมสารเพิ่มคุณภาพผลิตจากเทคโนโลยีล่าสุดลิขสิทธิ์เฉพาะของวาโวลีน ให้การปกป้องสูงสุด ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาวะการขับขี่และทุกอุณหภูมิการทำงาน ออกแบบเฉพาะสำหรับรถเก๋งเครื่องยนต์ดีเซลที่ติดตั้งอุปกรณ์กรองเขม่า (DPF) ตามมาตราฐานไอเสีย EuroV/VI ยังเหมาะสาหรับเครื่องยนต์เบนซินแบบหัวฉีดในยานยนต์สมรรถนะสูง เช่น รถสปอร์ต รถซุปเปอร์คาร์ และรถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบัน